น้ำราดกล้วยปิ้ง สูตรโบราณ คุณยายสอนมา อร่อยเด็ดทำขายเลย

น้ำราดกล้วยปิ้ง สูตรโบราณ คุณย ายสอนมา อร่อยเด็ดทำขายเลย

สวัสดีทุกท่าน เรามีสูตรน้ำราดกล้วยปิ้ง เวลากินกล้วยปิ้งเราจะขาด น้ำจิ้มราดไม่ได้เลย วันนี้เราเลยนำสูตรมาให้ทุกท่านได้ลองทำทานเองหรือทำขายก็กำไรดี กล้วยปิ้งหวาน อร่อย กลมกล่อม ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย

1 สูตรน้ำราดกล้วยปิ้งแบบกะทิ

ส่วนประกอบของสูตรน้ำกะทิ มี น้ำตาลปิ๊บ 1 ½ ถ้วย กะทิ 1 ถ้วย เนยสด 2 ช้อนชา และ เกลือ 1 หยิบมือ ต่อไปก็มาลงมือทำง่าย ๆ เลย

วิธีทำ

1 เอาน้ำตาลปิ๊บกับกะทิ 1 ส่วน มาเคี่ยวเข้าด้วยกัน เคี่ยวไปจนน้ำตาลละลายเลยนะ

2 พอน้ำตาลปิ๊บละลายแล้วใส่เนยสดลงไป เคี่ยวต่อให้เข้ากัน

3 ใส่น้ำกะทิที่เหลือตามลงไปแล้วก็เคี่ยวต่อไปอีก พอเข้ากันหมดแล้วก็ปิดไฟนำมารอเย็นแล้วราดกล้วยปิ้งได้เลย

2 สูตรน้ำราดกล้วยปิ้งด้วยซอสมะพร้าวอ่อน

มาเตรียมส่วนประกอบก่อนเช่นเดิม โดยจะมี น้ำตาลปิ๊บ 4 ออนซ์ น้ำตาลทรายขาว 2 ออนซ์ น้ำตาลทรายแดง 2 ออนซ์ เกลือ ½ ช้อนชา หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง ใบเตย 2 ใบ และ เนื้อมะพร้าวสด ½ ถ้วยตวง ต่อไปก็เป็นวิธีการทำ

ขั้นตอนการทำ

1 นำน้ำตาลปิ๊บ น้ำตาลทรายทั้งขาวและแดงใส่ลงไป เกลือ หัวกะทิด้วย ลงในหม้อเลยจากนั้นตั้งเตาไฟอ่อน ๆ เคี่ยวประมาณ 20 นาทีเลย

2 ต่อด้วยการเอา หั ว กะทิใส่ให้หมดเลยแล้วทำการเคี่ยวต่อ ใส่ใบเตยตามไป เคี่ยวอีก 10 นาทีหรือจนกว่าน้ำกะทิจะเหนียวข้น

3 สุดท้ายก็ใส่เป็นเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปแล้วคนอีกรอบ รอให้เดือด ค่อยปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็นก็ใช้ราดกล้วยปิ้งได้แล้ว

ทั้ง 2 สูตรที่ได้แนะนำไปข้างต้นนั้นก็เป็นสูตรที่ทำง่าย ๆ แต่อร่อยเ ห า ะไปเลย สำหรับใครที่อย ากจะได้น้ำราดกล้วยเด็ด ๆ บอกเลยว่าอย่ าพลาด พอได้น้ำไปแล้วมาดูสูตรการทำกล้วยป้องกันบ้าง

วิธีทำกล้วยปิ้ง

1 นำกล้วยมาปอกเปลือกให้เรียบร้อย

2 หั่นเป็นแว่น ๆ ประมาณ 1 นิ้ว

3 หาไม้มาเสียบหรือจะวางย างในตะแกรงก็ได้

4 นำกล้วยเสียบไปปิ้งในเตาถ่ายไฟอ่อน ๆ นาน 15 นาที หรือปิ้งจนกล้วยสุกเป็นสีน้ำตาลอ่อน

5 เอากล้วยปิ้งสุกแล้วมาทับให้แบน

6 เอาแปรงจุ่มซอส(น้ำราด)มาทาบนกล้วยปิ้ง แล้วนำไปย่ างไฟอีกที 5 นาที ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสริฟ

แค่อ่านจบก็นึกอย ากจะทานกล้วยปิ้งแล้ว อย่ ามัวรอช้าหากมีวัตถุดิบพร้อมก็มาเริ่มลงมือทำได้เลย หากยังไม่ได้ทำขายก็ลองทำแล้วให้คนในครอบครัว ญาติ เพื่อน ลองชิมดูก่อนก็ได้ หากหลายคนบอกว่าอร่อยก็สามารถทำขายได้แล้วนะ

ขอบคุณที่มา Postsara, cooking kapook, f o o d mt h a i

เรียบเรียงโดย 108archeepparuay