น้ำจิ้มซีฟู๊ด 10แบบ 10สไตล์ ทำงาน เครื่องปรุงน้อย บอกทุกขั้นตอน

น้ำจิ้มซีฟู๊ด 10แบบ 10สไตล์ ทำงาน เครื่องปรุงน้อย บอกทุกขั้นตอน

น้ำจิ้มซีฟู๊ด 10แบบ 10สไตล์ ทำงาน เครื่องปรุงน้อย บอกทุกขั้นตอน

น้ำจิ้มเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรานั้นขาดไม่ได้เลย เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คอยเติมรสชาติให้กับ อาหารที่เราทานให้มีรสชาติ ที่อร่อยมากยิ่งขึ้น และวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะนำสูตรเด็ดการทำน้ำจิ้มมาฝากอีกตามเคยจ้า วันนี้เรารวบรวมมา 10 สูตร บอกเลยว่าเด็ดทุกสูตร ทานได้กับทุกเมนู เอาเป็นว่า อ ย่ า รอช้า เราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ

1 น้ำจิ้มซีฟู้ด (สูตรอาหารทะเลล ว กจิ้ม)

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้เหมาะกับอาหารทะเลแนวลวกจิ้ม ทีเด็ดอยู่ตรงที่มีความเผ็ดจี๊ดจนน้ำหูน้ำตาไหล ส่วนผสมไม่เยอะแค่จับพ ริกขี้หนูมาผสมกับกระเทียม รากผักชี เกลือ และน้ำตาลทราย ที่ขาดไม่ได้คือ น้ำมะนาว น้ำจิ้มซีฟู๊ด 10แบบ 10สไตล์ ทำงาน เครื่องปรุงน้อย บอกทุกขั้นตอน เสิร์ฟพร้อมอาหารทะเลลวก กินเพลิน ๆ ข้าวสวยไม่ต้อง แค่นี้ก็อิ่มหนำสำราญใจแล้วค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด

1 พริกข ี้ห นู ส ว น (สีเขียวผสมสีแดง) 20 เม็ด

2 พ ริกข ี้ห นู เม็ดใหญ่ 20 เม็ด

3 กระเทียมไ ท ยแกะเปลือก 1/2 ถ้วย

4 รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ

5 เกลือ 4 ช้อนชา

6 น้ำตาลทราย 7 ช้อนชา

7 น้ำม ะนา ว 1/2 ถ้วย

8 น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1 ขั้นตอนแรกเลยให้ใส่พริกข ี้ห นูทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ตามด้วยกระเทียม รากผักชี เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำม ะนา ว ปั่นให้เข้ากันพอหย าบ

2 จากนั้นให้ใส่น้ำต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

2 น้ำจิ้มซีฟู้ด (สูตรใช้ครกตำ)

น้ำจิ้มซีฟู้ดเมนูน้ำจิ้ มที่มีความเผ็ดระดับกลาง เหมาะสำหรับคนชอบกระเทียมมาก ๆ เพราะได้ลิ้มรสชาติกระเทียมไปเต็ม ๆ และยังเหมาะกับครัวเรือนที่ไม่มีเครื่องปั่น ถ้าได้จิ้ มปลาหมึกลวกหน่อยรับรองเคี้ยวเพลินจนวางไม่ลงเชียวล่ะ

ส่วนผสม

1 พ ริกข ี้ห นูสวน 10 เม็ด

2 กระเทียมไ ท ย 10 กลีบ

3 รากผักชีโขลกละเอียด 2 ราก

4 น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ

5 น้ำม ะนา ว 6 ช้อนโต๊ะ

6 น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา

วิธีทำ

1 ขั้นตอนแรกเลย ให้โขลกพริกข ี้ห นูสวน กระเทียมไ ท ย และรากผักชีเข้าด้วยกันพอห ย า บ ๆ

2 จากนั้นให้เติมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากัน

3 และให้ตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิดแช่ไว้ในตู้เย็น สามารถเก็บได้นาน 3 วัน

3 น้ำจิ้มซีฟู้ด (สูตรโบราณใช้น้ำส้มสายชู)

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรโบราณใส่พริกข ี้ ห นู ลงไปตามชอบ ใส่น้ำส้มสายชูลงไปแทนน้ำมะนาว ไม่ใส่น้ำปลาแต่ใส่เกลือลงไป

ใช้การโขลกพอหย าบทำให้ได้ลิ้มรสเนื้อน้ำจิ้ มจริง ๆ แถมสูตรนี้ยังสามารถนำไปจิ้ มกินคู่กับไก่ต้มน้ำปลาได้อีกด้วยนะคะ

ส่วนผสม

1 พ ริ กข ี้ห นู  1 กำมือ

2 กระเทียม 5 กลีบ

3 เกลือป่น ปลายช้อน

4 น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย

5 น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1 ขั้นตอนแรกเลยให้โขลกพ ริ ก ข ี้ ห นู กระเทียม และเกลือป่นพอห ย า บ

2 ตามนั้นให้เติมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลปี๊บลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ

4 น้ำจิ้มซีฟู้ดถั่วตัด

น้ำจิ้มซีฟู้ดถั่วตัด เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ไม่เผ็ดจัดเกินไป เหมาะกับเด็ก ๆ หรือคนไม่กินเผ็ด รสเค็มได้มาจากเกลือ เติมรสเผ็ดและเปรี้ยวเพิ่มความกลมกล่อมด้วย

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ดถั่วตัด

กระเทียม

รากผักชี

น้ำตาลปี๊บ

เกลือ

ถั่วตัด

น้ำมะนาว

วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดถั่วตัด

1 ขั้นตอนแรกเลยให้นำพริกข ี้ห นูสวน กระเทียม รากผักชี น้ำตาลปี๊บ และเกลือโขลกให้ละเอียด

2 จากนั้นให้ใส่ถั่วตัด โขลกพอแหลก

3 ตามด้วยการใส่น้ำมะนาว และน้ำต้มเล็กน้อย คนให้เข้ากัน

5 น้ำจิ้มกุ้งเ ผ า (น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรใช้น้ำเชื่อม)

ใครมีเครื่องปั่นก็หยิบเอามาทำน้ำจิ้มกุ้งเผากันได้เลยค่ะ เริ่มแรกทำน้ำเชื่อมก่อนค่ะ ต่อมาก็จับกระเทียม รากผักชี พริกข ี้ห นู โหระพา และน้ำเชื่อมไปปั่นจนละเอียด แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำมะนาว

ส่วนผสม น้ำจิ้มกุ้งเ ผ า

1 น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

2 น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย

3 กระเทียมสับ 1/3 ถ้วย

4 รากผักชีสับ 1/4 ถ้วย

5 พริกข ี้ห นู เขียวแดง 3 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)

6 โหระพาซอย 1/4 ถ้วย

7 น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

8  น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำจิ้มกุ้งเ ผ า

1 ขั้นตอนแรก ให้ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำและน้ำตาลทรายลงในหม้อ ตั้งไฟคนให้ละลายจนเหนียวนิด ๆ

2 จากนั้นก็ให้นำกระเทียม รากผักชี พริกข ี้ห นู โหระพา และน้ำเชื่อม ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด

3 ตามด้วยการเทใส่ถ้วย เติมน้ำปลาและน้ำมะนาว พร้อมเสิร์ฟ

6 น้ำจิ้มซีฟู้ด (ปลาหมึกย่ างซีอิ๊ว)

ใครชอบความแซ่บพ ริกยกสวน อย ากให้ลองทำน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้ ใส่พริกเน้น ๆ เติมกระเทียมตามชอบ ปรุงรสเปรี้ยวหวานตามสไตล์

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด

1 พริกสด

2 กระเทียม

3 ม ะนา ว

4 น้ำปลา

5 น้ำตาลทราย

6 น้ำเปล่า (สำหรับทำน้ำจิ้ ม)

วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

– โขลกพริกกับกระเทียม จากนั้นใส่มะนาว น้ำปลา น้ำตาล และน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน เพิ่มเติมรสเปรี้ยวและเผ็ดได้ตามใจชอบ

7 น้ำจิ้มซีฟู้ด (น้ำจิ้ม ห อ ย)

แม้สีของน้ำจิ้มไม่แสบทรวง แต่แอบแซ่บนะคะ พบกับวิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดใส่พริกสด กระเทียม และรากผักชีโขลก ปรุงรสเผ็ดตามชอบ ไม่ต้องเติมน้ำเปล่าเพราะอย ากได้ความเข้มข้นจ้า

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด

1 พริกสด

2 กระเทียม

3 รากผักชี

4 น้ำปลา 4 ช้อน

5 มะนาว 4 ช้อน

6 น้ำตาลทราย 2 ช้อน

วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

ตำพริก กระเทียม และรากผักชี ตำพอแหลก ชอบเผ็ดให้เพิ่มพริก เติมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลลงไป คลุกเคล้าแล้วลองชิมดู

8 น้ำจิ้มซีฟู้ด (ปูไข่ ด อ ง)

สำหรับคนอย ากทำน้ำจิ้มซีฟู้ดง่าย ๆ ไม่ต้องมีเครื่องปรุงเยอะ ขอนำเสนอน้ำจิ้มซีฟู้ดที่มีแค่พริกกับกระเทียมและน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย เอาทั้งหมดตำจนละเอียด แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด

1 น้ำมะนาวแป้น 6 ช้อนโต๊ะ

2 น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ

3น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ

4 พ ริกข ี้ห นู สวน 2 ช้อนโต๊ะ

5 กระเทียมไ ท ย 2 ช้อนโต๊ะ

6 นำส่วนผสมทั้งหมดมาตำรวมกัน

9 น้ำจิ้มซีฟู้ด (น้ำจิ้ มห อ ย แ ม ล งภู่)

ปิดท้ายด้วยวิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด สูตรนี้ใส่เกลือเพิ่มความเค็ม ใส่พริก กระเทียม และรากผักชีโขลกแบบละเอียด เติมน้ำต้มสุกเพิ่มปริมาณสักหน่อย

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด

พริกข ี้ห นู ส วน

กระเทียม

รากผักชี

น้ำตาลปี๊บ

เกลือ

น้ำม ะนา ว

น้ำต้มสุก

1 ขั้นตอนแรกเลยให้โขลกพริกข ี้ห นูสวน กระเทียม รากผักชี น้ำตาลปี๊บ และเกลือ ให้ละเอียด

2 จากนั้นให้ใส่น้ำมะนาวและน้ำต้มเล็กน้อย คนให้เข้ากัน

10 น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรใส่ใบโหระพา

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้จะมีสีเขียวจัดเพราะจะใส่พ ริกข ี้ห นู เขียวอ ย่ า งเดียว

และเพิ่มความเขียวขจียิ่งขึ้นด้วยใบโหระพา เพิ่มความเค็มด้วยน้ำปลารสชาติจะออกเปรี้ยว

และหวานนำจากน้ำเชื่อม รสเผ็ดไม่มาก เหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ด แถมสีสันของน้ำจิ้ มยังเป็นสีเขียวดูแล้วสบายตาอีกด้วย

ส่วนผสม

1 พริกข ี้ห นู สีเขียว 2 ช้อนโต๊ะ

2 กระเทียมไ ท ยสั บ 1 ช้อนโต๊ะ

3 รากผักชีสับ 2 ต้น

4 ใบโหระพา 1/2 ถ้วย

5 น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ

6 น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

7 น้ำมะนา ว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1 ขั้นตอนแรกเลยให้ใส่พริกข ี้ห นู กระเทียมสับ รากผักชีสับ ใบโหระพา น้ำเชื่อม น้ำปลา และน้ำมะนาวลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นทุกอ ย่ า งให้ละเอียดและเข้ากัน

2 และให้เพื่อนๆนั้นตักใส่ภาชนะมีฝาปิด สามารถเก็บไว้ได้ 3 วัน

เรียบเรียงโดย 108archeepparuay