เก็บเอาไว้เลยวิธีทำกล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อนสูตรโบราณ หอมอร่อยหวานมันแถมยังประโยชน์อีกด้วย

เก็บเอาไว้เลยวิธีทำกล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อนสูตรโบราณ หอมอร่อยหวานมันแถมยังประโยชน์อีกด้วย

เก็บเอาไว้เลยวิธีทำกล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อนสูตรโบราณ หอมอร่อยหวานมันแถมยังประโยชน์อีกด้วย

วันนี้เรามีเมนูของกินอร่อยๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ก็คือ “กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิ​มะพร้าวอ่อน” กล้วยปิ้งหรือจะเรียกว่ากล้วยทับก็ได้ เป็นเมนูขนมไท ยที่คุ้นเคยกันมานาน นำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ขายดีสุด จะมีวิธีการทำอย่ างไรนั้นไปชมกันเลย

ส่วนประกอบวัตถุดิบ

1. น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม

2. น้ำตาลทรายขาว 55 กรัม

3. น้ำตาลทรายแดง 55 กรัม

4. เกลือ 1/2 ช้อนชา

5. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง

6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วยตวง

7. ใบเตย 2 ใบ

8. กล้วยน้ำว้าสุกพอห่าม 15-18 ลูก

ขั้นตอนทำน้ำจิ้ม

1. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดง ตามด้วยเกลือ ใส่หัวกะทิลงไป 1/2 ถ้วยตวง นำไปตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อนเคี่ยวต่อประมาณ 20 นาที

2. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยใบเตย เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที หรือจนน้ำกะทิเหนียวข้น

3. ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนให้เข้ากันรอให้เดือดอีกรอบ ปิดไฟ พักทิ้งไว้

ขั้นตอนการปิ้งกล้วย

1. ปอกกล้วย ล้างด้วยน้ำเกลือ หั่นหนาประมาณ 1 นิ้ว หรือใช้ทั้งลูกก็ได้ แล้วแต่ความชอบ

2. เสียบกล้วยใส่ไม้ เตรียมนำไปปิ้งหรืออบ

3. ปิ้งกล้วยบนเตาใช้ไฟอ่อนประมาณ 10-15 นาที กลับไปกลับมา หรือจนกล้วยมีสีน้ำตาลอ่อนทั้งสองด้าน

4. นำใส่ถุงพลาสติกชนิดถุงร้อน แล้วบีบ หรือทับ ให้แบนตามความชอบ

5. จัดกล้วยทับใส่จาน ราดด้วยน้ำจิ้ม หรือจะแช่ ให้ซึมเข้าเนื้อ แล้วแต่ความชอบ

ทำกินเองที่บ้านก็ง่าย หน้าตาดูดี สีสันชวนน้ลายไหลจริงๆค่ะ

เห็นแล้วหิวเลย อย่ าลืมไปลองทำทานกันนะคะเพื่อนๆต่อยอดเอาไปทำขาย สร้างรายได้สร้างอาชีพ ก็นับว่าเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจจ้า กับเมนูเด็ด “กล้วยปิ้งราดน้ำจิ้มกะทิมะพร้าวอ่อน” กล้วยมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย กล้วยเป็นแหล่งพลังงานสำรองชั้นดี

ในกล้วย 1 ผล สามารถให้พลังงานได้ร่วม 100 แคลอรี่มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิด ทั้ง ซูโครส ฟรุคโทส และกลูโครสรวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร และอุดมด้วย วิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน มีแร่ธาตุอย่ างแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันโร คความดันอีกด้วยในบรรดากล้วยทั้งหมด กล้วยน้ำว้าให้แคลเซียมสูงสุด นอกจากนั้นก็ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 ซี และไนอะซิน (บี 6) ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน แต่ที่ทำให้กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าส ารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น นั่นก็คือ โปรตีนที่อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน สามารถช่วยเพิ่มเม็ดเลื อดขาวให้มากขึ้นได้ ร่างกายของคุณก็จะสามารถต่อสู้กับไวรัสต่างๆได้

ถึงแม้ว่ากล้วยดิบก็มีผลเช่นเดียวกัน แต่หลังจากที่กล้วยได้รับการปิ้งหรือย่ างแล้วโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่อยู่ในเนื้อกล้วยจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมันจะช่วยกำจัดแบคทีเรียในลำไส้ได้อย่ างดี แล้วภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นนั่นเองจ้า

ขอบคุณที่มา Yupha Ninbodee

เรียบเรียงโดย 108archeepparuay